'Toxic Positivity' : ทำไมการบอกให้ "สู้ๆนะ" หรือ "คิดบวกเข้าไว้" ถึงกำลังทำร้ายใจเพื่อนร่วมงานคุณ?

'Toxic Positivity' : ทำไมการบอกให้ "สู้ๆนะ" หรือ "คิดบวกเข้าไว้" ถึงกำลังทำร้ายใจเพื่อนร่วมงานคุณ?

Posted on : November 6, 2025
832

🤡 หน้ากาก 'Happy All The Time' : ทำไมการฝืนยิ้มถึงทำให้คุณ Burnout หนักกว่าเดิม

สวัสดีค่ะชาว SOCO WORK!

คุณเคยรู้สึกไหมว่า... ในทุกๆ เช้าที่ก้าวเข้าสู่ประตูออฟฟิศ คุณกำลังสวม "หน้ากาก" ใบหนึ่งไว้? 
เป็นหน้ากากที่บอกว่า "ฉันโอเค!" "ฉันแฮปปี้!" "ฉันจัดการทุกอย่างได้!" ทั้งที่ข้างในคุณกำลังเหนื่อยล้าแทบขาดใจ เจอปัญหาหนักๆ หรือเพิ่งทะเลาะกับหัวหน้ามาหมาดๆ

แล้วเวลาที่คุณเผลอเผยความรู้สึกอ่อนแอออกมา มีใครสักคนเดินมาตบไหล่เบาๆ พร้อมพูดว่า... "ไม่เป็นไรน่า! คิดบวกเข้าไว้!" หรือ "เรื่องแค่นี้เอง สู้ๆ!" แทนที่จะรู้สึกดีขึ้น คุณกลับรู้สึกแย่กว่าเดิม หรือรู้สึกว่า "ไม่เข้าใจกูเลยว่ะ"

นั่นแหละค่ะ คือสัญญาณเตือนของกระแสที่เรียกว่า Toxic Positivity (ท็อกซิก โพส-ซิทิฟ-วิตี้) หรือ "การมองโลกในแง่ดีที่เป็นพิษ" ที่ทำให้คุณต้องสวมหน้ากาก 'Happy All The Time' จนเหนื่อยล้า และอาจนำไปสู่ภาวะ Burnout หนักกว่าเดิม!

 

⚠️ 'Toxic Positivity' คืออะไร? 
(และทำไมมันถึงบังคับให้คุณต้องฝืนยิ้ม)

Toxic Positivity คือความเชื่อที่มากเกินไปว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน เราก็ ต้อง รักษาท่าทีคิดบวกไว้เสมอ โดยการ ปฏิเสธ ไม่ยอมรับ หรือ กดทับ อารมณ์เชิงลบทั้งหมด

  • Positive Thinking (การคิดบวกปกติ) คือการพยายามหาทางออก หรือมองหาบทเรียนจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยยอมรับ ว่าตัวเองรู้สึกแย่และเจ็บปวด
  • Toxic Positivity (การคิดบวกเป็นพิษ) คือการบอกว่า "ห้ามเศร้า!" หรือ "แกต้องมีความสุขเท่านั้น!" เป็นการปฏิเสธไม่ให้พื้นที่กับความรู้สึกของมนุษย์ที่หลากหลาย

 

ความอันตรายร้ายแรง ของมันคือการทำให้คุณรู้สึกว่า ความรู้สึกเศร้า, เครียด, หรือกังวล เป็นเรื่องที่ "ผิด" เป็นความล้มเหลวส่วนตัว และทำให้คุณต้องแสร้งทำเป็นมีความสุขอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็คือการ "ฝืนยิ้ม" และ "สวมหน้ากาก" นั่นเอง การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำให้คุณต้องใช้พลังงานมหาศาลเพื่อกดทับอารมณ์ที่แท้จริง แต่ยังนำไปสู่การสะสมความเครียด ความรู้สึกโดดเดี่ยว และภาวะ Burnout ได้ในที่สุด

 


 

💬 4 ประโยค 'Toxic' ที่ชาวออฟฟิศต้องหยุดพูด (และหยุดฟัง)

นี่คือตัวอย่างประโยคที่เรามักใช้กันในที่ทำงาน ซึ่งเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ส่งเสริมให้เกิดการสวมหน้ากาก "Happy All The Time" โดยไม่รู้ตัว:

  • "อย่างน้อยคุณก็ยังมีงานทำนะ / ยังมีรายได้อยู่ดี"

ความหมายแฝง: คุณไม่ควรบ่น เพราะมีคนที่แย่กว่าคุณ

ผลกระทบ: ทำให้ผู้ฟังรู้สึกผิดที่บ่น และรู้สึกว่าความเจ็บปวดของตัวเองไม่สำคัญ

  • "เรื่องแค่นี้เอง สู้ๆ / ไม่เห็นต้องคิดมากเลย"

ความหมายแฝง: คุณกำลังอ่อนไหวเกินไป

ผลกระทบ: ปิดโอกาสที่พวกเขาจะเล่าปัญหาต่อ และทำให้รู้สึกว่าปัญหาของพวกเขาถูกมองข้าม

  • "ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยเหตุผล / มองโลกในแง่ดีไว้สิ"

ความหมายแฝง: ไม่ต้องรู้สึกแย่ แค่มองหาสิ่งดีๆ

ผลกระทบ: ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าตัวเองถูกกดดันให้หาบทเรียน ในขณะที่ยังไม่พร้อมจะก้าวข้ามความเจ็บปวด

  • "เดี๋ยวก็ผ่านไป / เวลาจะเยียวยาทุกอย่างเอง"

ความหมายแฝง: ไม่จำเป็นต้องทำอะไรหรอก แค่รอ

ผลกระทบ: ไม่ได้ช่วยให้เขาจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าได้จริง


 

💖 ถอดหน้ากาก! สร้างสภาพแวดล้อมที่ 'เยียวยา'
ด้วย Emotional Validation

ถ้าเราอยากเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี เป็นเพื่อนที่เข้าใจ และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สบายใจ เราต้องเปลี่ยนจากการ "กดดันให้คิดบวก" เป็น "การยอมรับความรู้สึก" หรือ Emotional Validation

Emotional Validation คือการสื่อสารที่ทำให้คนคนนั้นรับรู้ว่า "ฉันได้ยินคุณนะ และฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกแบบนั้นได้" มันไม่ได้แปลว่าคุณต้องแก้ปัญหาให้เขา แต่แปลว่าคุณยอมรับความเป็นมนุษย์ของเขาอย่างแท้จริง

 

3 ประโยคทองคำที่ควรพูดแทน

สถานการณ์ที่เขาเจอประโยค Toxic Positivity ที่ควรเลี่ยง (และส่งเสริมการสวมหน้ากาก)ประโยค Emotional Validation ที่ช่วยเยียวยา (และทำให้กล้าถอดหน้ากาก)
ถูกตำหนิอย่างไม่ยุติธรรม"คิดบวกไว้! นี่คือโอกาสในการพัฒนาตัวเองนะ""ฉันเข้าใจว่าคุณรู้สึกโกรธ/ไม่ยุติธรรมกับเรื่องนี้มากเลย"
งานเยอะจนจะ Burnout"สู้ๆ อีกนิดเดียวก็วันศุกร์แล้ว!""คุณรู้สึกเหนื่อยมากเลยใช่ไหม? มันหนักจริงๆ นะ"
เศร้าเพราะทำโปรเจกต์พลาด"ช่างมันเถอะ! ลืมๆ ไปแล้วเริ่มใหม่!""คุณรู้สึกผิดหวังในตัวเองได้นะ ให้เวลาตัวเองสักพัก"

จำไว้ว่า บางครั้งสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้ คือ การอยู่ข้างๆ และอนุญาตให้เพื่อนร่วมงานถอดหน้ากาก 'Happy All The Time' ออก และรู้สึกในสิ่งที่เขารู้สึกจริงๆ โดยไม่ต้องพยายามบังคับให้เขา "หายเศร้า" ทันที

ให้พื้นที่... คือการเยียวยาที่ดีที่สุดสำหรับชาว SOCO WORK ทุกคน

 


#ToxicPositivity #EmotionalValidation #สุขภาพจิต #SOCOmind #WorkplaceCulture #Burnout